
เครื่องเสียงหลอด และ การดูแลรักษา
เครื่องเสียงหลอด ยังได้รับความนิยมมากในปัจจุบัน จะเห็นว่าในท้องตลาดมีหลากหลายยี่ห้อ ที่ผลิตเครื่องเสียงหลอดขาย ดังนั้นในท้องตลาดจึงมีทั้งเครื่องใหม่ๆและเครื่องเก่าๆ ซึ่งอายุการใช้งานจากวันผลิตถึงเวลานี้ บางเครื่องมีอายุหลายสิบปี การดูแลรักษาที่ถูกวิธีจึงเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิง
โดยเฉพาะเครื่องเก่าๆ ที่ผ่านการใช้งานมานาน หรือเครื่องเก่าเก็บ เพราะ อะไหล่และอุปกรณ์ ภายในเครื่องมีอายุการใช้งาน การเสื่อมสภาพ ค่าคลาดเคลื่อน มีโอกาสเกิดขึ้นได้ ส่งผลให้การทำงานของเครื่องไม่ปรกติ ทำให้อายุการใช้งานของ ชิ้นส่วนอุปกรณ์ที่ใช้งานร่วมกันเสียหายได้
การดูแล เครื่องเสียงมือสอง โดยเฉพาะเครื่องเสียงหลอด ที่มีอายุกการใช้งานมานาน อย่างเช่นเครื่องเสียงวินเทจ หรือแม้แต่เครื่องเสียง DIY ของนักเล่นเครื่องเสียง ชอบสะสมหลอดเก่าๆ เก็บไว้ใช้งาน คนที่เข้าใจวิธีการดูแล วิธีการนำมาใช้ จะทำให้ประสิทธิภาพการใช้งานดี แต่ถ้าใครไม่ใส่ใจในรายละเอียด การดูแลรักษา หรือการนำมาใช้งานเบื้องต้น จะทำให้อายุการใช้งานของอะไหล่ อุปกรณ์ภายในเครื่อง รวมถึงหลอดซึ่งเป็นหัวใจหลัก มีอายุการใช้งานสั้นลง หรืออาจทำให้เครื่องเสียง ดีๆมีประสิธิภาพแย่ลง ไม่ตรงตามการออกแบบวงจร อาจจะหลงทางไปแก้ที่ ปลายเหตุ
เสียค่าใช้จ่าย เสียเวลาเกินความจำเป็น
เรื่องที่ต้องใส่ใจแยกออกได้กว้างๆ 3 ประเด็น คือ
1.การดูแลสภาพภายนอกและการต่อใช้งาน
การดูแลสภาพภายนอก และ การต่อใช้งาน การดูแลลักษณะนี้ ผู้ใช้สมารถดูแลเองได้ หรือจะให้ช่างที่เชี่ยวชาญดูแลให้ก็ได้ เช่น การเลือกอุปกรณ์ สายไฟ สายสัญญาณที่เหมาะสมกับระบบ มีมาตรฐานทางไฟฟ้า ทางอุตสาหกรรมรองรับ อยู่ในระดับราคาที่ยอมรับรับได้ เหมาะสมกับสภาพการใช้งานระยะยาว ควรหลีกเลี่ยงสายไม่มีมาตรฐาน เพราะในระยะไม่นาน โลหะตัวนำจะเกิดอ๊อกไซด์ ทำให้สัญญาณสูญเสียทั้งระบบ จนเกิดสัญญาณรบกวน หนักๆเข้าจะทำให้เกิดความเสียหายตามมา มีหลายระบบของผู้ใช้งานเครื่องเสียง ใช้สายไม่ดีเกิดการออกซิลเลททำลาย เครื่องขยาย ทำลายลำโพง นอกจากนั้นต้องหมั่นดูแลไม่ให้ขั้วต่อสัญญาณเกิดคราบ เกิดอ๊อกไซด์ ซึ่งสามารถป้องกัน ไม่ให้เกิดผลเสียต่อระบบโดยรวมได้
2.การดูแลภายในเครื่อง รวมถึงอะไหล่อุปกรณ์และวงจรต่างๆ
การดูแลแก้ไขข้อบกพร่องภายในเครื่อง ควรเป็นหน้าที่ของช่างผู้ชำนาญจะดีที่สุด เพราะถ้าไม่รู้จริงเกี่ยวกับวงจร และการทำงานของเครื่อง อาจจะส่งผลเสียมากกว่าจะได้รับการแก้ไข รวมไปถึงการเปลี่ยนอะไหล่อุปกรณ์ อัพเกรดให้ดีกว่าเดิม หรือปรับปรุงให้เหมือนเดิม จะต้องใช้เครื่องมือวัด เปรียบเทียบให้ได้สเป็ก และคุณภาพการทำงานของวงจรอย่างถูกต้อง ขยายสัญญาณเสียงได้สมบูรณ์เต็มที่ ไม่ผิดเพี้ยนไปจากต้นฉบับ ตลอดถึงลดค่าคลาดเคลื่อนทางเฟสสัญญาณ ความถีเสียง ค่าดิสเตอร์ชั่น ซึ่งเป็นตัวปัญหาให้เกิดเสียงพร่ามัวไม่สดใส
3.การดูแลระหว่างใช้งาน ระยะเวลาการใช้งานต่อเนื่อง หรือว่างเว้นการใช้งาน
การดูแลเรื่องนี้ เป็นหน้าที่ของผู้ใช้ ต้องต่อใช้งานเครื่องเสียงให้สม่ำเสมอ ไม่ทิ้งเครื่องเสียงไว้นานๆโดยไม่จำเป็น เพราะอะไหล่อุปกรณ์เครื่องเสียง สามารถเสื่อมสภาพได้ ถ้าทิ้งไว้นานๆ อย่างเช่น ตัวเก็บประจุแห้ง จะทำให้ระบบการจ่ายกระแสเลี้ยงวงจรผิดเพลาด ไม่เป็นไปตามวงจรที่ออกแบบไว้ เกิดการกระชากไฟจ่าย ให้วงจรอย่างฉับพลัน จ่ายกระแสมากกว่าปรกติ จะให้เกิดความเสียหายได้ หรือที่หลายคนอาจเคยเจอ เก็บไว้เฉยๆก็เสีย นอกจากนี้ผู้ใช้ต้องระวังเรื่อง การเปิดปิดหรือการเร่งลดเสียง ต้องระมัดระวังไม่พรั้งเผลอ เร่งระดับวอลลุมจนดังเกินไป ถึงระดับที่ลำโพงทำงานอย่างหนัก บ่อยครั้งเข้าจะทำลำโพงเกิดการผิดเพี้ยน เสียงสั่นพร่าได้ การระมัดระวังเบื้องต้นเหล่านี้ ช่วยให้เครื่องเสียงที่ต่อในระบบ มีความคงคงทน ยังคงรักษาระดับเสียงที่สดใสได้นานขึ้น